Argan Oil สารพัดประโยชน์!!

Argan Oil คือ น้ำมันที่ได้จากผล อาร์แกน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Argania spinosa เป็นพืชที่ได้ถูกนำมาใช้ในหลายชั่วอายุคน โดยชนพื้นเมือง Argan Woodlands ในโมร็อกโคได้บีบคั้นเมล็ดถั่วเพื่อสกัดมาเป็น น้ํามันอาร์แกนออยล์ Argan Oil ที่มีสรรพคุณมาใช้เป็นอาหารเสริม รักษาแผลและบรรเทาอาการผื่นคัน บำรุงผิว เส้นผม

Argan Oil น้ำมันอาร์แกนออยล์ เป็นน้ำมันที่หายาก ซึ่งมีกรดไขมัน Oleic(โอเมก้า 9) และ Linoleic(โอเมก้า 6) ซึ่งเหมาะกับผู้มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งน้ำมันอาร์แกนออยล์มีกรด Linoleic(โอเมก้า 6) ประมาณ 35-40 เปอร์เซ็นต์และกรด Oleic(โอเมก้า 9) 42-48 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ไลโนเลอิก(โอเมก้า 6) ช่วยรักษาการอักเสบและสิว อีกทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ส่วนกรดโอเลอิก(โอเมก้า 9) มีคุณสมบัติในการซึมสู่ผิวได้ง่ายซึ่งจะช่วยให้ ส่วนผสมอื่นๆซึมสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย

แต่ก็มีผู้ที่กังวลว่าการใช้น้ำมันอาร์แกนออยล์ จะทำให้ผิวมีไขมันอุดตันที่ก่อให้เกิดสิวหรือไม่ ในความเป็นจริงแล้วน้ำมันอาร์แกนออยล์ไม่ได้ทำให้มีไขมันอุดตันบนผิวเนื่องจากเป็นน้ำมันที่มีลักษณะคล้ายกับกรดไขมันที่ผิวจึงสามารถซึมสู่ผิวได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำมันอาร์แกนออยล์ถึงได้รับความนิยมเป็นวิธีรักษาสำหรับผู้ที่เป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด หรือสิวจากการแพ้ของผู้มีผิวแพ้ง่าย

ที่สุดแห่งขุมทรัพย์จากธรรมชาติ … เราพามาทำความรู้จักกับ  Argan Oil เป็นน้ำมันที่ขึ้นชื่อได้ว่าหายากก ถือได้ว่าเป็น Miracle Oil สารพัดประโยชน์ ที่มีถิ่นกำเนิดจากโมร็อคโค แถบทะเลทรายเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีประวัติยาวนานนับพันปี ปัจจุบันเป็นต้นไม้ที่ได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย และได้รับการรับรองจากงานวิจัยทางวิทยาศาตร์จากสถาบันชั้นนำของโลกแล้วว่า มีความเข้มข้นของวิตามินอีและกรดไขมันจำเป็นต่อผิวสูง ด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้เราจะเห็นได้ว่า Argan Oil มักจะเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยปกป้องและซ่อมแซมผิวให้แข็งแรง สร้างความยืดหยุ่นของผิวไม่เรียบเนียน ลดริ้วรอย ซึ่ง Argan Oil สามารถใช้บำรุงได้ทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเลย ทีนี้เรามาดูว่า Argan Oil ทำอะไรได้บ้าง

  • สำหรับคนผิวแพ้ง่าย เป็นสิว หรือติดสารสเตียรอย Argan Oil จะช่วยลดการบวม อักเสบของสิว และ ฟื้นฟูลึกถึงระดับเซลล์ผิวให้แข็งแรง
  • สำหรับคนผิวหน้ามัน หรือผิวขาดน้ำ Argan Oil จะไปช่วยปรับสมดุลของโครงสร้างผิว โดยลดระดับไขมันในผิว และยังเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และกักเก็บความชุ่มชื่น ให้ผิวหน้าไม่มันและไม่แห้งจนเกินไปได้อีกด้วย
  • สำหรับบริเวณผิวแตกลาย ด้วย Argan Oil มีวิตามินเอและวิตามินอีเข้มข้นสูง จึงทำให้เข้าไปซ่อมแซมเซลล์ผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอได้

Argan Oil นอกจากจะเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆแล้ว ยังสามารถใช้ทาลงบนผิวเพื่อบำรุงผิวได้โดยตรงอีกด้วย

12 ประโยชน์และสรรพคุณของน้ำมันอาร์แกนออยล์

  1. ใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงตอนกลางคืน น้ำมันอาร์แกนออยล์ Argan Oil เป็นน้ำมันที่ซึมลงสู่ผิวเร็วและไม่ทิ้งคราบ ซึ่งหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า หยดน้ำมัน อาร์แกน ออยล์ ลงบนมือ แล้วทาบริเวณผิวหน้าและลำคอ ตอนกลางคืน ในช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศแห้งแล้ง อากาศร้อน คุณอาจต้องใช้เป็นสองครั้งต่อวัน แต่ก็ใช้เท่าที่จำเป็น ซึ่งน้ำมันอาร์แกนออยล์ นี้มีความอ่อนโยนและไม่มีอันตรายขณะที่ใช้รอบดวงตา ใช้ 1 หยดแล้วทาบนใบหน้าทาเบาๆจากดั้งจมูกขี้นไปจนถึงขมับ จากนั้นหยดและทาอีกจุดบริเวณใต้ตาเบาๆเช่นเดียวกัน ซึ่งวิตามินเอและวิตามินอีสามารถช่วยลดรอยเหี่ยวย่นที่ดีและทำให้ผิวชุ่มชื่น ซึ่งจากผลการศึกษา พ.ศ.2558 ยังแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของน้ำมันอาร์แกนออยล์( Argan Oil )ที่ช่วยในการต่อต้านริ้วรอย
  2. เป็นโทนเนอร์ การใช้โทนเนอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิว สามารถใช้บำรุงผิวในทุกส่วนได้ โดยการนำน้ำมันอาร์แกนออยล์(Argan Oil)ผสม 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของโทนเนอร์ หรือมากกว่านั้น อาจทำโทนเนอร์ที่ทำจากธรรมชาติด้วยตนเองที่บ้านได้โดย ต้มน้ำให้เดือด 1 ถ้วย แล้วนำถุงชากรีนทีใส่ลงไปแช่ไว้ 7-10 นาที แล้วนำถุงชาออก ที่ให้น้ำเย็นตามอุณหภูมิห้องหยดน้ำมันหอมระเหยในกลิ่นที่ชอบลงไปซึ่งแนะนำเป็น Orange, Lemon, Teatree แล้วหยดน้ำมันอาร์แกนออยล์ 2-4 หยด ลงในถ้วยแล้วใช้ล้างหน้าเช้าหรือตอนกลางคืน ล้างทำความสะอาดหน้าและก่อนทา moisturizer
  3. ขัดผิว(Scrub) สามารถทำด้วยตัวเองง่ายๆ และที่สำคัญราคาไม่แพง สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า ประโยชน์ในการขัดผิว เพียงแค่ผสมน้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำมันอาร์แกนออยล์ 1-2 หยด แล้วทานวดบริเวณใบหน้า 2-4 นาที เน้นบริเวณที่เป็นสิว และผิวแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วเช็ดให้แห้ง การขัดผิวอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ช่วยขัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก และลดการเกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูเด็ก ผิวสดชื่น เพราะเมื่อผสมน้ำตาลทรายแดงกับน้ำมันอาร์แกนออยล์ช่วยให้สารอาหารซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว การสครับสามารถใช้ได้มากกว่าบนใบหน้า เช่นบริเวณข้อศอกที่แห้ง ส้นเท้าแตก สามารถผสมและนวดบริเวณดังกล่าวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก
  4.  รักษาสิว สำหรับคนที่ทรมานจากการเป็นสิวเห่อ สิวอักเสบ ไม่มั่นใจในตัวเอง น้ำมันอาร์แกนออยล์ได้รับการพิสูจน์ว่า เป็นน้ำมันที่ลดระดับไขมันในบุคคลที่มีผิวมัน สำหรับผู้ที่ไม่เคยเป็นสิวมาก่อน แล้วเกิดสิวในช่วงอายุ 30 ถึง 40 ปี เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง และรักษาหายยาก การใช้ครีมที่มีสารเคมีอาจทำให้ต้องเสียเงินในการรักษาแพงมากในระยะยาว ซึ่งมีผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งปริมาณกรดไลโนเลอิกที่มีมากในน้ำมันอาร์แกนออยล์ เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ (ไม่รวมถึงผื่นคันจากการติดเชื้อแมลงกัดต่อย) ถ้าคุณใช้น้ำมันอาร์แกนออยล์มาใช้เป็น moisturizer ของคุณ และยังคงรักษาสิวสามารถใช้เป็นส่วนผสมในการรักษาสิวที่บ้าน สามารถผสมกับน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ ทีทรี หรือ น้ำมันหอมระเหยคาโมมาย ชนิดใดชนิดหนึ่งหรือ 3 ชนิดก็ได้ ซึ่งใช้เพียงแค่ 1% ของน้ำมันอาร์แกนออยล์ แล้วทาบริเวณที่มีสิวอักเสบ สิวอุดตัน น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ ทีทรี และ น้ำมันหอมระเหยคาโมมาย เมื่อผสมกับน้ำมันอาร์แกนออยล์ มีประโยชน์ในเรื่องความสวยความงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านแบคทีเรีย ต้านไวรัสรวมถึงเชื้อรา เมื่อใช้ร่วมกันสามารถช่วยลดสิวอักเสบ ผิวแพ้ง่าย และรอยแผลเป็น
  5. รอยแตกลายของผิวหนัง น้ำมันอาร์แกนออยล์ Argan Oil มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งช่วยป้องกันผิวแตกลาย หยดใส่มือ 2-3 หยดแล้วทาบริเวณที่ต้องการ เช่น คนท้องอาจเกิดท้องแตกลายได้ บริเวณสะโพกและต้นขา หรือบริเวณที่มีปัญหา วิตามินเอและอี ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น ดูอ่อนวัยและลดรอยแตกลายบนผิว ไปหาคุณเดี๋ยวผิวแตกลายแล้วให้ใช้น้ำตาลทรายแดงผสมกับน้ำมันอาร์แกนออยล์(Argan Oil) แล้วนวดบริเวณที่ผิวแตกลายนั้นแล้วล้างออก
  6. ผิวไหม้แดดและรูขุมขนอักเสบ ช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนแสงแดดเผาได้กลับมามีสุขภาพดีดังเดิม ด้วยความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ปรับสภาพผิวให้แข็งแรง จึงทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องโดนแสงแดดเป็นประจำ รูขุมขนอักเสบอาจเกิดจากการโกน ถอนบริเวณที่มีขน เช่น เครา ขนหน้าแข้ง น้ำมันอาร์แกนออยล์ ( Argan Oil )เป็นจะช่วยรักษาผิวที่อาจถูกทำร้ายจากการโกนให้นุ่มนวลขึ้น เพียง หยดน้ำมันอาร์แกนออยล์ลงบนมือ 2 ถึง 3 หยดแล้วทาบริเวณที่ต้องการสามารถช่วยลดรูขุมขนอักเสบ
  7. บำรุงได้ทุกส่วนของร่างกาย น้ำมันอาร์แกนออยล์ Argan Oil ใช้บำรุงได้ทุกส่วนของร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สินค้าที่ทำจากธรรมชาติปราศจากสารเคมีที่ผสมอยู่ในโลชั่น และครีมบำรุงผิว สามารถผสมน้ำมันอาร์แกนออยล์(Argan Oil) กับน้ำมัน Virgin เอาตัวอื่นๆได้ เช่น Rosehip Oil JoJoba Oil Moringa Oil เพื่อเพิ่มสารอาหารที่ครบถ้วนขึ้นให้กับผิว ถ้าคุณมีผิวแห้งกร้านบริเวณ ส้นเท้า ข้อศอก หรือบริเวณอื่นๆ หยดและนวดบริเวณนั้นจะช่วยบรรเทาผิวแห้งกร้านได้
  8. หยดใส่ครีมนวดผม น้ำมันอาร์แกนออยล์ Argan Oil ไม่ใช่เพียงใช้แค่บำรุงผิวอย่างเดียว ยังสามารถนำไปบำรุงผมอีกด้วย น้ำมันอาร์แกนออยล์นี้ซึมสู่ผมได้อย่างรวดเร็วทำให้ไม่มันจนเกินไปหากหยดลงไปในครีมนวดผม วิธีง่ายๆในการบำรุงผมและขจัดปัญหาที่น่ารำคาญออกไป น้ำมันอาร์แกนออยล์ช่วยให้ผมเรียบสวยและมีน้ำหนักและช่วยป้องกันความร้อนจากไดร์เป่าผม คนที่ดัดผมหรือหนีบผมน้ำมันอาร์แกนออยล์จะช่วยป้องกันและรักษาให้ผมเงางามอยู่เสมอ เนื่องจากว่าน้ำมันอาร์แกนออยล์มีวิตามินบำรุงผม ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ด้วยดังนั้นเมื่อใช้แล้วคนให้แน่ใจว่าได้ถูลงบนหนังศีรษะของคุณแล้ว ในการใช้บำรุงผมขึ้นอยู่กับความหนาและความยาวของเส้นผมของคุณคุณอาจต้องใช้ 1 ถึง 3 หยด ในการบำรุงผม การฝึกใช้ในปริมาณที่เหมาะสมอาจต้องใช้เวลาฝึกบ้างเล็กน้อย เริ่มต้นด้วยการหยดลงบนฝ่ามือ แล้วทาลงบนหนังศีรษะ โดยเน้นที่นิ้วมือให้สางผมเพื่อให้น้ำมันอาร์แกนโดนหนังศีรษะ เมื่อเสร็จแล้วอาจมีน้ำมันติดอยู่บนฝ่ามือสามารถนำน้ำมันส่วนเกินที่ติดอยู่ที่ฝ่ามือมาทาหน้า ลำคอและแขน
  9. ปรับสภาพผมอย่างล้ำลึกในตอนกลางคืน ถ้าคุณเป็นคนผมบาง ผมแห้ง อาจหมักผมน้ำมันอาร์แกนออยล์สัปดาห์ละ 1 ครั้งในตอนกลางคืน อาจผสมกับน้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ (Rosemary Essential Oil) ก็จะดียิ่งขึ้น(ไม่เกิน 5% ของน้ำมันอาร์แกนออยล์) หยดน้ำมันอาร์แกนออยล์ 4-10 หยดแล้วทาลงบนหนังศีรษะ แนะนำให้เอาหมวกอาบน้ำมาคลุมไว้ที่ผมแล้วเข้านอนได้เลย ซึ่งความร้อนจากร่างกายที่ออกมาจะถูกเก็บไว้ที่หมวกอาบน้ำทำให้น้ำมันอาร์แกนออยล์สามารถซึมสู่ผิวได้ดีขึ้น และเมื่อตื่นเช้ามาอาบน้ำให้ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย แต่ถ้าคุณมีรังแคมีหนังศรีษะแห้ง อาจใช้เป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยผสมกับน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์หรือทีทรี(ไม่เกิน 5% ของน้ำมันอาร์แกนออยล์) ใช้จนกว่ารังแคจะหายและทำต่อทุกๆสัปดาห์หรือตามความจำเป็น
  10. บำรุงริมฝีปากน้ำมันอาร์แกนออยล์ มีประโยชน์มากกว่าบำรุงผิวและเส้นผม ยังช่วยรักษาริมฝีปากให้ดูดีอีกด้วยหรือใช้แทนลิปบาล์ม หยดประมาณ 1 หยดแล้วทาริมฝีปากและเช็ดส่วนเกินออก การทาน้ำมันอาร์แกนออยล์ ที่ริมฝีปากไม่เพียงแค่บรรเทาริมฝีปากแตก แต่ยังช่วยให้ริมฝีปากนุ่มนวลน่าหลงใหลและปรับสภาพริมฝีปาก ใช้น้ำมันอาร์แกนออยล์ทาริมฝีปากในช่วงหน้าหนาวก็สามารถช่วยป้องกันริมฝีปากแตก
  11.  รักษาเล็บและหนังกำพร้า ในขั้นตอนนี้จะพูดถึงวิธีการบำรุงเล็บ น้ำมันอาร์แกนออยล์ เป็นน้ำมันที่ไม่เหนียวเหนอะหนะเหมาะที่จะนำมาบำรุงเล็บและขจัดผิวหนังตายแล้วบริเวณเล็บออก หยดน้ำมันอาร์แกนออยล์ ลงบนเล็บเพียงเล็กน้อย แล้วถูบริเวณเล็บและหนังกำพร้าทิ้งไว้จนน้ำมันอาร์แกนออยล์ซึมลงไป น้ำมันอาร์แกนออยล์ ไม่เพียงช่วยบำรุงเล็บของคุณใจยังช่วยเป็น moisturizer  หนังกำพร้าบริเวณเล็บ
  12. บำรุงเท้า ถ้าคุณมีผิวแห้ง ผิวแตก ที่บริเวณเท้าหรือส้นเท้า หยดใส่ฝ่ามือประมาณ 2 หยดและทาบริเวณที่มีผิวแห้งแตก หรืออาจใช้มากกว่านั้นไม่เพียงพอ เมื่อทาแล้วสวมถุงเท้า เพื่อให้เกิดความอบอุ่นทำให้น้ำมันอาร์แกนออยล์ซึมสู่ผิวได้ดีขึ้นทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หรือหากทาไว้ก่อนนอนก็จะดีมาก

การเลือกซื้อและวิธีการจัดเก็บน้ํามัน

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญนอกจากการใช้ คือ คุณภาพของน้ำมันอาร์แกนออยล์ต้องเลือกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งน้ำมันอาร์แกนออยล์ที่มีคุณภาพต่ำจะให้สรรพคุณในเรื่องสารอาหารและการบำรุงที่ไม่ดีนัก วิธีเลือกซื้อควรเลือกซื้อที่เป็นน้ำมันอาร์แกนออยล์ 100% เป็น organic  สกัดเย็น สีจะออกสีเหลืองทองและมีกลิ่นเหมือนน้ำมัน

ถึงแม้น้ำมันอาร์แกนออยล์ จะราคาค่อนข้างสูงแต่เมื่อเทียบกับปริมาณการใช้กับเครื่องสำอางค์(อายครีม Moisturizer โลชั่น สินค้าบำรุงผม และอื่นๆ) จึงถือว่ามีความคุ้มค่าเป็นอย่างมากที่นำมาใช้ การเก็บรักษาควรเก็บให้พ้นจากแสงแดดและปิดฝาให้สนิท ขอแนะนำให้ใช้ให้หมดภายใน 6 เดือนหลังจากเปิดใช้เพื่อประโยชน์ที่สูงที่สุด หรืออาจซื้อมาใช้ในขนาด  30-60 ml. ก่อนแล้วดูว่าคุณใช้มันในระยะเวลาเท่าไหร่