สารเคมีในเครื่องสำอางค์ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

เครื่องสำอางค์ต้องห้ามขณะตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนคงรู้ว่าข้อห้ามขณะตั้งครรภ์มีอะไรบ้าง และระมัดระวังไปแทบทุกอย่าง เลิกกินปลาดิบสุดโปรดชั่วคราว กิจกรรมนั่งดริ้งค์ชิลๆ ก็โบกมือบ๊ายบาย จะกินยาอะไรก็ต้องถามคุณหมอก่อน แต่รู้ไหมคะว่าทั้งเครื่องสำอางค์และสกินแคร์ ก็มีสารเคมีที่ไม่ควรใช้ระหว่างการตั้งครรภ์และระหว่างการให้นมลูกเช่นกันนะคะ

1. ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant)

ให้คุณแม่สังเกตตรงส่วนประกอบค่ะ ถ้าไม่มี อะลูมิเนียม คลอไรด์ (Aluminum chloride hexahydrate) เป็นใช้ได้ เนื่องจากอะลูมิเนียม คลอไรด์ ซึมเข้าผิวหนังและผ่านไปถึงรกหรือน้ำนม ทำให้ลูกในครรภ์ได้รับไปด้วย และอาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้นั่นเองค่ะ

2. สารเคมีในกลุ่มของ BHA (Beta hydroxy acids)

ที่มี Salicylic acid, 3-hydroxypropionic acid, trethocanic acid และ tropic acid เนื่องจากเป็นสารที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ค่ะ

3. ครีมกันแดด

ที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้ค่ะ Avobenzone, homosalate, octisalate, octocrylene, oxybenzone, oxtinoxate, menthyl anthranilate และ oxtocrylene เพราะสารเคมีจะไปรบกวนระบบฮอร์โมนในร่างกาย

4. สบู่และแชมพู

ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเหล่านี้เป็นส่วนประกอบค่ะ Diethanolamine (DEA), Oleamide DEA, Lauramide DEA และ Cocamide DEA เนื่องจากทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากในส่วนผสมมีเกลือ nitrates อยู่ด้วยจะเกิดเป็น Nitrosodiethanolamine (NDEA) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งทันทีค่ะ

5. น้ำยายืดผม ยาทาเล็บ และกาวต่อขนตา

ที่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde), quaternium-15, dimethyl-dimethyl (DMDM), hydantoin, imidazolidinyl urea, diazolidinyl urea, sodium hydroxymethylglycinate, และ 2-bromo-2-nitropropane-1,3-diol (bromopol) เนื่องจากเป็นสารระเหยที่มีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง

6. ครีมหรือยารักษาฝ้า

ที่มีสาร hydroquinone, idrochinone และ quinol/1-4 dihydroxy benzene/1-4 hydroxy benzene เนื่องจากเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์บางตัวของร่างกาย และระคายเคืองต่อผิว จนอาจจะทำให้เกิดอาการผิวบาง แพ้แสงแดดได้ด้วยนะคะ

7. พาราเบน

หรือหาส่วนผสมเหล่านี้ค่ะ propyl, butyl, isopropyl, isobutyl และ methyl parabens เนื่องจากเป็นสารกันเสียและสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และมีการตกค้างของสารเคมีในร่างกายเมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน อาจจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นทางที่ดีที่สุด คือหยุดผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีตัวนี้ก่อนจะวางแผนตั้งครรภ์นะคะ

8.น้ำหอมและยาทาเล็บ

ที่มี Phthalates, diethyl และ dibutyl เนื่องจากทำให้ระบบทางเดินหายใจและระบบประสาทเกิดการระคายเคืองได้ ส่งผลทำให้ปวดและเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน และเลวร้ายที่สุดคือ สามารถทำลายอวัยวะภายในได้เลยทีเดียว

9. วิตามินเอ

หรือ Retinol A, retinoic acid, retinyl palmitate, retinaldehyde, adapalene, tretinoin, tazarotene และ isotretinoin เนื่องจากส่งผลต่อทารกในครรภ์ ทำให้เกิดความผิดปกติต่างๆ และอาจจะทำให้ทารกพิการตั้งแต่แรกเกิดได้ค่ะ

10. ผลิตภัณฑ์ใส่ผม ครีมกำจัดขน และน้ำยาดัดผม

ที่มี Thioglycolic acid, labeled acetyl mercaptan, mercaptoacetate, mercaptoacetic acid และ thiovanic acid เนื่องจากทำให้ระบบทางเดินหายใจและผิวหนังระคายเคือง

11. ยาทาเล็บ

ที่มีสาร Toluene, methylbenzene, toluol และ antisal 1a เนื่องจากดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ทารกมีความพิการ และทำให้สมองเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น เมื่อคุณแม่รู้อย่างนี้แล้ว ควรอ่านส่วนผสมหรือส่วนประกอบก่อนการตัดสินใจซื้อ หรือดูของที่ใช้อยู่ว่ามีสารเคมีต้องห้ามบ้างรึเปล่า แต่ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ เลิกใช้ไปก่อนก็น่าจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดนะคะ

 

หลักการเลือกใช้เครื่องสำอางในช่วงตั้งครรภ์

1. ครีมบำรุงและเครื่องสำอางส่วนใหญ่นั้น ไม่มีข้อห้ามใช้อะไรในหญิงตั้งครรภ์ แต่ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีสารเหล่านี้

  • สาร ในกลุ่ม Retinoids ได้แก่ retinol (วิตามินเอ) , retinoic acid (กรดวิตามินเอ ) , retinaldehyde , retinyl esters (เช่น retinyl propionate และ retinyl palmitate) รวมไปถึงกลุ่มอนุพันธุ์กึ่งสังเคราะห์ทั้งหลาย ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดที่มีส่วนผสมของ retinoids และต้องหลีกเลี่ยง เช่น  Retin-A®, Stieva-A®, Renova® , Adapalene (Differin®) เพราะเป็นกลุ่มที่เป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ถึงขั้นพิการได้ ดังนั้น ห้ามใช้เด็ดขาดคะ
  • ยาทาแก้สิวกลุ่ม Benzoyl peroxide เช่น BP, Benzac®  — อาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าได้ง่าย
  • ยาทาแก้สิวที่มีส่วนผสมของ Clindamycin, Metronidazole  —- 2 ตัวนี้เป็นยานะคะ ไม่ดีแน่ถ้าทายาลงบนผิวหนัง แล้วยาเหล่านี้ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แม้จะเป็นปริมาณน้อยก็ตาม
  • ยาทาแก้สิว/เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ BHA, Salicylic acid — เชื่อกันว่า BHA จะเปลี่ยนเป็น salicylic และถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด สมมติฐานนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิชาการว่าเป็นจริงหรือไม่ แพทย์บางท่านยังให้ใช้ได้ตามปกติ แต่แพทย์บางท่านก็แนะนำให้เลี่ยง  สูตินารีแพทย์ต่างประเทศ ยังคงให้ใช้ BHA ในความเข้มข้นต่ำได้ ไม่เกิน 2% และให้ทาบริเวณแคบๆ เช่นแต้มเป็นจุด และไม่ควรใช้ทุกวัน ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ยกเว้นผลิตภัณฑ์กลุ่มทำความสะอาดผิวหน้าที่ใช้น้ำล้างออกทันที  แม้จะผสม BHA ก็สามารถใช้ได้ทุกวัน เนื่องจากไม่ได้ทาทิ้งไว้  จึงปลอดภัย

อีกตัวคือ post acne repair serum ตัวนี้มีส่วนผสมของ BHA และ retinoids   ห้ามใช้ในคนท้องคะ

  •  กรด ผลไม้ (AHA)  ความเข้มข้นสูงทุกชนิดไม่ว่าจะสกัดจากผลไม้อะไร ผิวในหญิงตั้งครรภ์ จะอ่อนแอกว่าปกติ อาจจะระคายเคืองได้  ที่ต้องเลี่ยงคือ การใช้ AHA ในความเข้มข้นสูงเพื่อการผลัดเซลล์ผิว (ทำ treatment)  ส่วนการใช้ความเข้มข้นต่ำๆ สามารถใช้ได้ แต่ไม่ควรใช้ทุกวัน และไม่ควรทาบริเวณกว้าง และเช่นเดียวกันกับ BHA คือ  ผลิตภัณฑ์กลุ่มทำความสะอาดผิวหน้าที่ใช้น้ำล้างออกทันที แม้จะผสม AHA ก็สามารถใช้ได้  เนื่องจากไม่ได้ทาทิ้งไว้ จึงปลอดภัย
  • ครีมกันแดด ยังคงใช้ได้ และจำเป็นต้องใช้ เพราะในยามตั้งครรภ์จะมีการสร้างเม็ดสีได้มากขึ้น โอกาสที่กระและฝ้าจะมาทักทายก็มีมากขึ้น ควรเลือกครีมกันแดดในกลุ่มฟิสิคัล (Physical sunscreen) ซึ่งมีสารเคมีน้อยกว่า แนะนำกันแดดที่มีส่วนผสมของ Titanium dioxide, Micronized Zinc oxide เป็นต้น สำหรับค่า SPF ควรมีค่า 30 ขึ้นไป เพียงแต่เวลาดูส่วนผสมที่ข้างกล่องนอกจากหลีกเลี่ยงสารกลุ่มวิตามิน A ดังข้างต้นแล้ว ก็ให้หลีกเลี่ยงที่มี salicylic acid เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย
    • สำหรับเจลอาบน้ำ ไม่มีข้อห้ามอะไร แต่ ไม่ควรใช้ครีมที่ใช้ประกอบการถอนขน เพราะ สารเคมีในผลิตภัณฑ์กำจัดขน จะเข้าไปอุดตามรูขุมขน และมีโอกาสสูงที่จะถูกดดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ รวมไปถึง ครีมกำจัดขนรักแร้ ขนตามร่างกายทุกชนิดก็ห้ามใช้คะ

ยาสระผม ไม่มีข้อห้ามอะไร แต่ไม่ควรย้อมสีหรือดัดผม เพราะสารเคมีในครีมดัด ย้อมผม สามารถถูกดูดซึมผ่านหนังศีรษะเข้าสู่กระแสเลือดได้

แต่งหน้าได้ แต่ควรระวังเรื่องสิวอุดตัน เพราะอาจมีการขับของซีบั้มหรือไขมันบนใบหน้ามากขึ้นกว่าช่วงปกติ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “non-comedogenic” และล้างหน้าให้สะอาดด้วยครีมเช็ดเครื่องสำอาง ตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่า  make up ที่ใช้ ไม่มีส่วนผสมของสารกลุ่ม retinoids หรือ BHA –2  สารนี้มักผสมใน make up สำหรับผิวที่ต้องการควบคุมความมัน เป็นสิวง่าย

สรุปคือ งดใช้ “ยา” ทาสิวทุกประเภท หากมีสิวขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ เพราะมียาบางตัวที่ยังสามารถใช้ได้ในยามตั้งครรภ์ แต่ควรให้แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสมค่ะ ส่วนครีมบำรุงต่างๆ หากตรวจสอบแล้วว่าไม่มีรายชื่อสารต้องห้าม สามารถใช้ต่อได้ไม่ต้องกังวล พยายามประพฤติตนเป็นสาว organic and chemical-free ปนเปื้อนสารเคมีให้น้อยที่สุด เพื่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์

 

ขอบคุณข้อมูลจาก fitpregnancy