แชร์ประสบการณ์การคลอดเอง ที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า Parts 1 ฝากท้อง

ท้อง3 นี้ เอื้อยฝากท้องที่ ร.พ.พระมงกุฎ กับ อ.หมอ ปองรัก โดยเป็นฝากคลีนิคนอกเวลา เพราะในเวลา คงมาไม่สะดวก สำหรับปัญหาที่จอดรถ ในช่วงนอกเวลา ก็พอหาที่จอดรถได้อยู่ แต่ถ้าในเวลาราชการ ไม่ต้องคิดเลยค่ะ มา taxi อย่างเดียว ที่จอดเต็มตั้งแต่ 6.05 น.

ทำไมถึงฝากที่นี่ เพราะว่า ใกล้บ้านที่อยู่ประจำ แล้วก็ไม่ได้ไกลจากที่ทำงานมากเท่าไหร่ และเป็น ร.พ.รัฐบาล ซึ่ง ท้อง 3 นี้ อายุก็ 38 ปีแล้ว แอบมีความกังวล เผื่อว่าถ้าคลอดแล้วลูกเกิดต้องเข้าตู้อบ หรือเป็นอะไร เราก็ยังมีความมั่นใจในคุณหมอ และอุปกรณ์การแพทย์ของที่นี่ แล้วก็ยังสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ไหว

อีกอย่าง ลูกๆ 2 คน ก็มาตรวจที่นี่เป็นประจำ เลยมีความคุ้นเคยอยู่

ในช่วงการฝากครรภ์ ช่วงแรก คุณหมอก็จะนัดทุกเดือน แล้วตั้งแต่ 32 สัปดาห์ เป็นต้นไป ที่จะนัดทุก 2 สัปดาห์ แล้วช่วง 36 สัปดาห์ก็จะนัดทุกสัปดาห์

กำหนดคลอดอยู่ที่ 14 พฤษภาคม 2562

ห้องตรวจจะอยู่ที่ ชั้น 1 ของอาคารพัชรกิติยาภานะคะ การรอคิวการตรวจแต่ละครั้ง ของคลินิคนอกเวลา เค้าจะรับบัตรตั้งแต่ 16.00 น. ถึงประมาณ 18.00 น. ซึ่งหลังจากเลิกงาน เอื้อยไปถึง ร.พ. ก็ประมาณ 17.00 น. และมักจะเป็นคิวเกือบสุดท้ายแล้ว กว่าจะได้ตรวจก็ประมาณ 19.00 น. หรือบางสัปดาห์ ที่คนเยอะมากๆ หรือต้องไปทำ ultrasound ก็เสร็จเกือบ 20.00 น. เลยทีเดียว การเตรียมตัว เอื้อยก็จะเตรียมอาหารไปด้วย ไปกินระหว่างรอหมอ ไม่งั้นจะหิวมากไม่ไหว

พอมาถึงแต่ละครั้ง ก็ยื่นบัตรนัดให้ เจ้าหน้าที่ถามอาการว่าเป็นไงบ้าง ลูกดิ้นดีมั้ย แล้วก็ไปเก็บปัสสาวะ พอเสร็จ ก็ไปชั่งน้ำหนัก วัดความดัน จดค่าเอาไว้ รอจนกว่าเจ้าหน้าที่จะเรียก ก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่บันทึกค่าในสมุดนัด แล้วก็รอเรียกพบคุณหมอแบบยาวๆ ไป

สำหรับการ ultrasound ตลอดช่วงอายุครรภ์ คุณหมอจะให้ ultrasound แค่ตอนช่วงที่จะเจาะน้ำคร่ำ เท่านั้น ถ้าไม่มีผิดปกติอะไร ก็จบแค่นั้น สำหรับการ ultrasound แต่ถ้าไม่ได้เจาะน้ำคร่ำ แต่เราใช้วิธีการเจาะเลือด คุณหมอก็จะนัดให้มา ultrasound ต่างหาก

ท้องนี้เอื้อยเลือกการเจาะเลือด (nifty) แทนการเจาะน้ำคร่ำ
ซึ่งกระบวนการในการฟังคุณหมอบรรยายเรื่อง เจาะน้ำคร่ำ หรือเลือกเจาะเลือด คุณหมอจะนัดมาฟังบรรยาย และเจาะน้ำคร่ำ ในเวลาราชการเท่านั้น คลินิกนอกเวลาไม่มีค่ะ สำหรับการเจาะเลือด จะมีให้เลือกอยู่ 3-4 ยี่ห้อ แล้วแต่เรา
วันนั้นเอื้อยเลือก panorama ราคา 16,000 บาท เพราะมีประกันด้วย จากนั้นก็จะทราบผลอีกประมาณ 2 สัปดาห์ เค้าก็จะนัดให้มาฟังผล ในเวลาราชการ เท่านั้น เช่นเดียวกัน

กลับมาที่นัดทำ ultrasound ในช่วงนอกเวลา ซึ่งคุณหมอที่ทำหน้าที่ ultrasound ตรวจค่อนข้างละเอียดเลย พอตรวจเสร็จแล้ว print รูปเป็นที่ระลึกมาให้แค่ใบเดียว ไม่ print เยอะเหมือนกับ ร.พ.เอกชน 555

นอกจากนี้ คุณหมอจะให้อ่านเกี่ยวกับโรคไข้ซิก้าด้วย แถมมีถามตอบด้วย ว่าอ่านแล้วจำอะไรได้บ้าง ตอนอ่านก็ไม่ได้สนใจ เลยตอบไม่ค่อยถูก โดนหมอดุอีกต่างหาก สรุป คือ คนท้อง ต้องระวังอย่าให้ยุงกัด ใส่แขนยาว ขายาว โทนสีอ่อน เพราะถ้าเกิดเป็นไข้ซิก้า มีโอกาสให้ลูกพิการได้ สมองเล็ก เป็นต้น

ผลจากการ ultrasound ครั้งแรก ทุกอย่างปกติ แต่ว่า เจอว่าเส้นเลือดที่สายสะดือ โดยทั่วไป จะมี 3 เส้น คือ เส้นเลือดดำ 1 เส้น และเส้นเลือดแดง 2 เส้น แต่ตอนที่เราตรวจ คุณหมอพบแค่ 2 เส้น เลยทำให้คุณหมอให้นัดมาตรวจกับคุณหมอท่านอื่นให้เป็น 2nd opinion กับคุณหมอในเวลาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการนัดหมายสำหรับตรวจซ้ำ คือ ถัดไปอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งตรวจในเวลาราชการเช่นกัน

หลังจากฟังผล ultrasound แล้ว ใจกังวล เลยตัดสินใจไม่รออีก 2 สัปดาห์ ลางานไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพในวันถัดไปเลย 555
ซึ่งผลการตรวจ สรุป ก็ปกติดีนะคะ มีเส้นเลือดครบ 3 เส้น วันนั้นที่คุณหมอเจอ 2 เส้น น่าจะเป็นมุมที่น้องซ่อน เลยมองไม่ชัด สบายใจไป

นอกนั้น ทุกครั้งที่ไปตรวจทุกเดือน จะมีการฟังเสียงหัวใจเด็ก แล้วก็คุณหมอจะใช้วิธีใช้สายวัดวัดขนาดท้อง และใช้มือในการตรวจระยะหัวเด็กว่ากลับหรือยัง ช่วงใกล้คลอด คือ ใช้ประสบการณ์ของคุณหมอในการตรวจจริงๆ

เอาค่าใช้จ่ายมาฝากนะคะ

หมายเหตุ :
สำหรับที่นี่ จะมีป้ายกำกับทุกห้องว่า #ห้ามถ่ายรูป ดังนั้น ระหว่างการตรวจ หรืออะไรทั้งหลายจะไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะ

จบ part 1 ฝากท้องแค่นี้ก่อนนะคะ

#โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ
#ฝากท้อง #ฝากครรภ์